23, เมษายน 2021, 05:15:40 PM
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
This topic
This board
Entire forum
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
ปฏิทิน
Shop
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
STF Forum
>
Administration Forum
>
Club STF
> หัวข้อ:
ชมรมคนชอบอ่านสามก๊กและตำนานซามูไร อัพเดทเตียวเลี้ยว หน้า 22 ครับ
หน้า:
1
...
21
22
[
23
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ชมรมคนชอบอ่านสามก๊กและตำนานซามูไร อัพเดทเตียวเลี้ยว หน้า 22 ครับ (อ่าน 174293 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
[chipper]
จำนวนผู้ประกอบการ:
(
0
)
Gold Saint
1434
ออฟไลน์
ใช้งานล่าสุด:
02, สิงหาคม 2011, 04:11:16 PM
กระทู้: 946
หมายเลขสมาชิก: 4184
วันที่สมัครสมาชิก: เม.ย., 2009
กระทู้: 946
242.00
ซูล่า
ดูรายการสินค้า
โอน Zula ให้ [chipper]
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Cosmo 24 : Exp 97%
HP: 0%
OS:
Windows XP
Browser:
Chrome 12.0.742.112
|
|
Re: ชมรมคนชอบอ่านสามก๊กและตำนานซามูไร อัพเดทเตียวเลี้ยว หน้า 22 ครับ
«
ตอบ #330 เมื่อ:
09, กรกฎาคม 2011, 07:43:18 PM »
^
^
จูเก๋อหยั่นครับน้องลี
ขอโทษจริงๆครับที่หายไปนานเลย พอดีผมพึ่งทำวิทยานิพนธ์เสร็จ
แต่ที่หายไปก็ไม่ได้หายไปเฉยๆนะครับ คือผมรู้สึกสับสนกับ time-line ของบางศึก
เลยไปหาข้อมูลมาเสียใหม่ แล้วเรื่องชื่อเมืองในภาษาจีนฝูเจี้ยนทำให้สับสนนิดหน่อย
ในประเด็นของชื่อเมืองน่ะครับ คือมันนึกไม่ออกว่าอยู่ตรงไหนบ้าง แล้วก็ถือโอกาสศึกษาวิธีอ่านออกเสียง pinyin
เพื่อให้ได้ชื่อตัวละครและชื่อเมืองที่ถูกต้องครับ ครวนี้ถือโอกาสรวบรวมข้อมูลใหม่เลย เริ่มจากโจโฉเลยนะครับ
PS. พรุ่งนี้จะมาอัพรายละเอียดเกี่ยวกับกำเหลงนะครับ
Right to be God
,
Chasamune
,
midnight-skarlar
,
tek_design5
,
takanon
Tweet
บันทึกการเข้า
Chasamune
จำนวนผู้ประกอบการ:
(
0
)
Gold Saint
2631
ออฟไลน์
ใช้งานล่าสุด:
08, กันยายน 2014, 09:06:07 PM
กระทู้: 3248
หมายเลขสมาชิก: 1960
วันที่สมัครสมาชิก: ก.ค., 2008
กระทู้: 3248
1999.00
ซูล่า
ดูรายการสินค้า
โอน Zula ให้ Chasamune
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Cosmo 46 : Exp 38%
HP: 0%
貴様... ゆるせない !!!
OS:
Windows XP
Browser:
Firefox 3.6.18
|
|
Re: ชมรมคนชอบอ่านสามก๊กและตำนานซามูไร อัพเดทเตียวเลี้ยว หน้า 22 ครับ
«
ตอบ #331 เมื่อ:
10, กรกฎาคม 2011, 12:46:58 AM »
ยินดีต้อนรับกลับมาขอรับพี่แผน บังเอิญจริงๆที่ช่วยนี้ผมเองก็ไฟแรงเรื่องสามก๊กเช่นกัน (เพราะ Koihime Musou แท้ๆ)
แล้วจะรอกำเหลงขอรับ โจรสลัดเก่าด้วยนิน่า แถมเป็นคู่แค้นกับเล่งทงตอนแรก ซึ่งตอนหลังก็เข้ากันด้วยดี (รึเปล่านะ)
แต่โจโฉก่อนก็ได้ขอรับ ผมเองก็แฟนวุยก๊กเหมือนกัน โดยเฉพาะแฮหัวตุ้น 555+
[chipper]
,
Right to be God
,
midnight-skarlar
,
takanon
Tweet
บันทึกการเข้า
Sengoku Basara Number One Otaku, You See!?!
tek_design5
Power User
จำนวนผู้ประกอบการ:
(
0
)
5976
ออฟไลน์
ใช้งานล่าสุด:
13, เมษายน 2021, 03:22:33 PM
กระทู้: 1309
หมายเลขสมาชิก: 162
วันที่สมัครสมาชิก: พ.ย., 2006
กระทู้: 1309
209.00
ซูล่า
ดูรายการสินค้า
โอน Zula ให้ tek_design5
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Cosmo 29 : Exp 39%
HP: 0.1%
OS:
Windows XP
Browser:
Chrome 12.0.742.122
ดูรายการสินค้า
|
|
Re: ชมรมคนชอบอ่านสามก๊กและตำนานซามูไร อัพเดทเตียวเลี้ยว หน้า 22 ครับ
«
ตอบ #332 เมื่อ:
16, กรกฎาคม 2011, 01:19:05 PM »
เรื่องภาษานี่เป็นปัญหามากเลยเวลา จะเทียบชื่อเมืองกับตัวละครที่เป็นภาษาอื่น
รออ่านประวัติกำเหลงครับคุณแผน เพราะจำประวัติได้เลือนลางมากเลย รู้สึกจะเคยอยู่กับทางด้านเล่าเปียวมาก่อน แล้วมาเข้ากับง่อหรือเปล่า ในหงสารู้สึกจะร่วมรบกับฮองตงซะด้วย
Right to be God
,
takanon
Tweet
บันทึกการเข้า
takanon
จำนวนผู้ประกอบการ:
(
+1
)
Gold Saint
1341
ออฟไลน์
ใช้งานล่าสุด:
24, มีนาคม 2021, 04:21:18 PM
กระทู้: 2776
หมายเลขสมาชิก: 432
วันที่สมัครสมาชิก: พ.ค., 2007
กระทู้: 2776
7.00
ซูล่า
ดูรายการสินค้า
โอน Zula ให้ takanon
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Cosmo 42 : Exp 87%
HP: 0.1%
OS:
Windows XP
Browser:
MS Internet Explorer 6.0
ดูรายการสินค้า
|
|
Re: ชมรมคนชอบอ่านสามก๊กและตำนานซามูไร อัพเดทเตียวเลี้ยว หน้า 22 ครับ
«
ตอบ #333 เมื่อ:
19, สิงหาคม 2011, 09:52:00 AM »
เคยอ่านประวัติของแต่ละคนในเว็ปเด็กดี
แต่เอามารวบรวมใหม่อีกก็ดีครับ
รออ่านประวัติคนอื่นๆ ต่อไปครับ
Right to be God
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19, สิงหาคม 2011, 10:55:26 AM โดย takanon
»
Tweet
บันทึกการเข้า
aeey cosmo
จำนวนผู้ประกอบการ:
(
0
)
Apprentice Saint
31
ออฟไลน์
ใช้งานล่าสุด:
16, กรกฎาคม 2012, 10:32:06 AM
กระทู้: 6
หมายเลขสมาชิก: 459
วันที่สมัครสมาชิก: มิ.ย., 2007
กระทู้: 6
13.00
ซูล่า
ดูรายการสินค้า
โอน Zula ให้ aeey cosmo
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Cosmo 2 : Exp 13%
HP: 0%
OS:
Windows XP
Browser:
MS Internet Explorer 8.0
|
|
Re: ชมรมคนชอบอ่านสามก๊กและตำนานซามูไร อัพเดทเตียวเลี้ยว หน้า 22 ครับ
«
ตอบ #334 เมื่อ:
28, ธันวาคม 2011, 02:57:18 AM »
อ้างจาก: [chipper] ที่ 21, พฤศจิกายน 2009, 04:30:51 PM
หวังเย่อิง ยอดหญิงผู้ถูกลืม
หวังเย่อิง
ในเรื่องสามก๊กนั้น จูกัดเหลียง ขงเบ้ง มหาอุปราชแห่งอาณาจักรจ๊กฮั่นได้รับยกย่องให้เป็นยอดกุนซือผู้ชาญฉลาดที่สุด ความสามารถของเขาได้ช่วยเหลือให้เจียงหวู่ฮ่องเต้หรือพระเจ้าเล่าปี่ให้สามารถก่อตั้งอาณาจักรซู่ฮั่นที่เสฉวนได้สำเร็จ หลังจากสิ้นพระเจ้าเล่าปี่ไป ขงเบ้งก็ได้ช่วยค้ำบัลลังก์ให้พระเจ้าเล่าเสี้ยน ผู้เป็นราชโอรสของพระเจ้าเล่าปี่ต่อ ซึ่งความสามารถของเขาก็ทำให้แคว้นปรปักษ์อย่างแคว้นเว่ยและหวูต่างให้ความยำเกรง แต่ว่ากันว่าเบื้องหลังความสำเร็จของขงเบ้งนั้นมาจากสตรีนางหนึ่ง ซึ่งนางผู้นั้นก็จัดเป็นหญิงผู้มีสติปัญญาล้ำเลิศ ไม่ว่าจะเป็นในด้านกลศึก ศาสตร์การคำนวณ การประดิษฐ์เครื่งยนต์กลไก รวมทั้งแตกฉานในวิชาความรู้ด้านโหราศาสตร์และดาราศาสตร์ นางมีชื่อว่าหวังเย่อิง ผู้ซึ่งเป็นภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของขงเบ้ง แต่เป็นที่น่าสงสัยเหลือเกินว่า ทั้งๆที่นางมีวิชาความรู้มากมายถึงเพียงนี้แล้ว เหตุใดบทบาทในเรื่องสามก๊กของนางจึงน้อยเหลือเกิน น้อยมากเสียจนเรียกได้ว่าถูกลืมเลยทีเดียว ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เรามาพิจารณาจากเรื่องราวของนางกันดีกว่าครับ
หวังเย่อิงยอดหญิงผู้ถูกลืม
ประวัติ
เมื่อสมัยปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก แผ่นดินจีนตกอยู่ในความโกลาหล เหล่าขุนศึกผู้กุมอำนาจทางทหารต่างเข้าต่อสู้ช่วงชิงความเป็นใหญ่กันจ้าละหวั่น การฆ่าฟันเกิดขึ้นไม่เว้นในแต่วัน ทั่วดินแดนภาคกลางหรือจงหยวนล้วนมีแต่ซากศพ เหล่าบัณฑิตและผู้มีความสามารถทั้งหลายต่างพากันอพยพลงสู่ดินแดนทางตอนใต้หรือที่เรียกกันว่าดินแดนเจียงหนัน
และที่ๆพวกเขาส่วนใหญ่พากันย้ายถิ่นฐานไปอยู่นั้น คือมณฑลเกงจิ๋ว ซึ่งในขณะนั้นมีเล่าเปียวเป็นผู้สำเร็จราชการ มณฑลเกงจิ๋วนั้นจัดเป็นดินแดนที่มีอาณาเขตคาบเกี่ยวระหว่างภาคกลางตอนล่างกับภาคใต้ตอนบน ดังนั้นที่แห่งนี้จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการยกทัพลงสู่ภาคใต้และยกทัพจากแดนใต้เข้ามาสู่ภาคกลาง
เล่าเปียวผู้ครอบครองมณฑลเกงจิ๋วนั้น ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ชอบอุปการะเหล่าบัณฑิตอยู่แล้ว เช่นนั้นจึงทำให้ผู้มีความสามารถมากมายต่างเข้ามารับใช้เขา อาทิ เช่น อีเจี้ย เก็งอวด เป็นต้น
แต่ก็มีบางส่วนเหมือนกันที่เป็นบัณฑิตผู้รักความสันโดษไม่สนใจยุ่งเกี่ยวการเมือง ซึ่งในที่นี้มียอดนักปราชญ์อย่าง ซินแสแว่นน้ำ สุมาเต็กโช ผู้ซึ่งมีความสามารถในการมองคนได้ทะลุปรุโปร่งเป็นผู้นำ แถมคนผู้นี้ยังได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์ของสามยอดกุนซือแห่งยุค อันได้แก่ ขงเบ้ง บังทอง และชีซีอีกด้วย
อีกคนก็คือคหบดีชื่อก้องบังเต๊กกง คนผู้นี้เป็นเศรษฐีใหญ่ผู้ร่ำรวยและยังเป็นยอดบัณฑิตผู้มีชื่อเสียง หากแต่ไม่ต้องการรับราชการ ซึ่งต่อมาหลานชายของเขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือชื่อก้องแห่งยุค ไม่ใช่ใครที่ไหนบังทองนั่นเอง
และคนสุดท้ายนี้มีชื่อว่าหวังเฉิงหย่วน คนผู้นี้จัดเป็นคหบดีใหญ่เช่นเดียวกันกับบังเต๊กกง และที่เหมือนกันเข้าไปอีกก็คือ การที่ไม่ยอมเข้ารับราชการ แต่หวังเฉิงหย่วนจะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการที่เขามีลูกสาวคนหนึ่งที่ขี้เหร่อย่างที่สุด กายของนางเป็นสีคล้ำ เส้นผมของนางมีสีเหลือง ทั้งนี้ก็เพราะแม่ของนางเป็นชาวนอกด่าน ซึ่งชื่อของนางก็คือหวังเย่อิง หรือที่ขงเบ้งและบิดาของชอบเรียกก็คือ อาฝู
แต่ภายใต้ความอัปลักษณ์นั้น นางมีความสามารถที่เหนือคนซุกซ่อนอยู่ กล่าวกันว่า หวังเย่อิง นางเป็นคนมีสติปัญญาสูงส่ง มีความสามารถในการประดิษฐ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ มีความเชี่ยวชาญทางด้านโหราศาสตร์และดาราศาสตร์ ทั้งยังรู้เรื่องพิธีกรรมทางไสยศาสตร์อีกด้วย ซึ่งว่ากันว่าด้วยความที่นางหน้าตาอัปลักษณ์ ทำให้นางเก็บตัวเองไม่ออกไปสุงสิงกับใคร ซึ่งวันๆนางจะครุ่นคิดหาวิธีในการประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ ตรงนี้จะแตกต่างไปจากหญิงสาวหลายต่อหลายคนในสมัยนั้นที่ถนัดการเย็บปักถักร้อย ส่งผลให้นางดูแปลกประหลาดในสายสายตาของคนอื่นๆ
ว่ากันว่าในเด็กๆในละแวกบ้านนางชอบร้องเพลงๆหนึ่งที่มีเนื้อหาว่า อสูรร้ายเกรี้ยวกราด ยังไม่เท่าความอัปลักษณ์ของคุณหนูใหญ่บ้านสกุลหวัง อ้าวทำไมผมถึงเรียกนางเป็นคุณหนูใหญ่น่ะหรือ ก็เพราะหวังเย่อิงนางมีน้องสาวน่ะสิครับ ซึ่งน้องสาวของนางนั้นจัดเป็นคนที่มีบุคลิกตรงกันข้ามกับนางอย่างมาก เพราะน้องสาวของนางหรือคุณหนูรองบ้านสกุลหวัง จัดเป็นยอดหญิงผู้มีเลอโฉมแห่งดินแดนเกงจิ๋ว ชายหนุ่มหลายต่อหลายคนต่างเฝ้าใฝ่ฝันในตัวนาง ซึ่งคุณหนูรองผู้นี้ก็เป็นที่รักอย่างมากของหวังเฉิงหย่วนผู้บิดา
วันหนึ่งชีวิตของหวังเย่อิงก็เปลี่ยนไป เมื่อหวังเฉิงหย่วนผู้บิดาของนางได้จัดงานพบปะกับบัณฑิตทั้งหลายผู้เป็นลูกศิษย์ของสุมาเต็กโช ซินแสแว่นน้ำ ซึ่งในที่นี้มีบัณฑิตหนุ่มผู้หนึ่งที่สุมาเต็กโชยกย่องในความสามารถจนถึงกับตั้งฉายาให้ว่า ฮกหลง หรือมังกรนิทราอยู่ด้วย ชื่อของเขาก็จูกัดเหลียง หรือก็คือขงเบ้งนั่นเอง ในวันนั้นหวังเฉิงหย่วนได้พาลูกสาวทั้งสองของตนมาด้วย ตอนนั้นเองที่คุณรองมีอาการไม่สบายจนเป็นลมล้มพับ ซึ่งขงเบ้งได้เข้าไปช่วยรักษาให้นาง ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้คุณหนูรองตกหลุมรักขงเบ้งเข้าอย่างจัง
และต่อมาคุณหนูรองก็ได้แวะเวียนไปหาขงเบ้งยังกระท่อมที่พำนักอยู่เสมอๆ โดยนางจะอ้างว่าไม่สบาย ต้องการให้ขงเบ้งช่วยรักษา ซึ่งทุกทีที่นางไปหานั้น ขงเบ้งจะไม่ค่อยอยู่พบ เป็นแต่ให้จูกัดจวิ๋นผู้น้องชายคอยรับหน้าแทน เวลาที่คุณหนูรองไปหาเขานั้น นางไม่ได้ไปคนเดียว หากแต่พาพี่สาวคือหวังเย่อิงติดตามไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ขงเบ้งกลายเป็นที่อิจฉาของเหล่าบุรุษทั้งหลาย แต่เกี่ยวกับชายหญิงคู่นี้ก็นับว่าเป็นการจับคู่ที่เหมาะสม เพราะคนหนึ่งเป็นยอดบัณฑิตผู้เด่นล้ำ อีกคนเป็นยอดหญิงงามแห่งเกงจิ๋ว หากเป็นการจับคู่กันแล้วก็นับว่าสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ทว่าคนที่ขงเบ้งให้ความสนใจกลับไม่ใช่คุณหนูรอง แต่กลับเป็นหวังเย่อิงผู้เป็นพี่สาวที่มีใบหน้าอัปลักษณ์ของนาง ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นล่ะ ผมจะขออธิบายสาเหตุในภายหลัง
หลังจากที่คุณหนูรองอ้างความเจ็บป่วยไปหาขงเบ้งเป็นเนืองนิตย์ ต่อมานางก็ไม่สบายจริงๆ คราวนี้หวังเย่อิงผู้เป็นพี่สาวจึงได้มีโอกาสเดินทางมาพบขงเบ้งตามลำพัง ซึ่งน่าแปลกที่คราวนี้ขงเบ้งไม่ได้หนีหายไปไหน เขาได้พูดคุยแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนางเป็นเวลานาน คาดว่าคราวนี้ขงเบ้งคงจะทำให้หวังเย่อิงประทับใจมาก และตัวเขาเองก็ชื่นชมในสติปัญญาของนางเช่นกันตรงนี้คงจะเป็นจุดเริ่มต้นความรักของคนทั้งสอง
ขอวกเข้าเรื่องราวของคหบดีหวังเฉิงหย่วนก่อนนะครับ หวังเฉิงหย่วนผู้นี้นิยมชมชอบในตัวเหล่าบัณฑิตที่สามารถ เขามักจัดงานพบปะพูดคุยกับเหล่าบัณฑิตอยู่เสมอๆ แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ตามเขากลับมองข้ามยอดคนผู้อยู่ใกล้ตัวของเขา ซึ่งก็คือหวังเย่อิงไปเสียสนิทใจ เพราะเขาคิดว่าลูกสาวผู้อัปลักษณ์คนนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เขาต้องอับอายผู้คน จนแทบจะเก็บตัวไม่ยอมไปไหน แต่พอเขาได้ข่าวว่าลูกสาวคนรองของเขาไปพบกับขงเบ้งที่กระท่อมบ่อยๆ จนทำให้เกิดข่าวลือว่าไม่นานคนทั้งสองคงได้แต่งงานกัน จริงอยู่ที่ขงเบ้งไม่ได้มาจากตระกูลที่สูงศักดิ์และร่ำรวยอย่างตระกูลหวัง หากแต่เขาเป็นยอดบัณฑิตผู้เด่นล้ำเหนือใครในเกงจิ๋ว หากหวังเฉิงหย่วนได้เขามาเป็นเขยแล้วละก็ ย่อมจะเพิ่มชื่อเสียงของเขาให้ลือเลื่องไปได้ไม่ยาก เขาจึงได้พยายาส่งคนไปเจรจากับขงเบ้งเรื่องแต่งงาน
แต่ปรากฏว่าขงเบ้งปฏิเสธไม่แยแสแทบทุกครั้ง ทำให้หวังเฉิงหย่วนเสียหน้ามาก แต่เพื่อลองอีกครั้งเขาจึงส่งหวังเย่อิง ลูกสาวคนโตไปเจรจากับขงเบ้งแทน ทั้งสองจะเจรจาความอย่างไรกันนั้นคงไม่อาจทราบได้ ซึ่งขงเบ้งก็ได้ตอบตกลง และวันต่อมาเขาก็ได้ขนขันหมากมาสู่ขอที่บ้านตระกูลหวัง เรื่องนี้ทำให้หวังเฉิงหย่วนดีใจมาก แต่ก็ระรื่นได้ไม่นาน เพราะขงเบ้งทำให้เขาต้องหงายหลั่งผึ่งอย่างตั้งตัวไม่ติด
เนื่องจากคนที่ขงเบ้งต้องการมาสู่ขอนั้นไม่ใช่คุณหนูรอง หากแต่เป็นหวังเย่อิง คุณหนูใหญ่ผู้มีหน้าตาอัปลักษณ์นางนั้น หวังเฉิงหย่วนจุกอกพูดไม่ออกแต่ก็ยังยอมรับขงเบ้งเป็นเขย ซึ่งงานแต่งของทั้งสองนั้น หลายต่อหลายคนคาดว่าคงจะเป็นงานที่ใหญ่โต และเต็มไปด้วยแขกเหรื่อมากหน้าหลายตา แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะงานแต่งของทั้งคู่เป็นงานที่เงียบงัน แถมยังเป็นที่กระท่อมของขงเบ้งไม่ใช่บ้านตระกูลหวังอีกต่างหาก มีแขกเพียงจูกัดจวิ๋นและเพื่อนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ส่วนคุณหนูรองนั้น การแต่งงานของขงเบ้งไม่ได้สร้างความเจ็บช้ำให้นางสักเท่าใด เพราะหลังจากนั้นนางก็ยังคงข้าไปเปล่งประกายเสหน่หาในงานสังคมชั้นสูงของเกงจิ๋วต่อไป
ทีนี้มาถึงประเด็นที่ว่า ทำไมขงเบ้งถึงเลือกนางหวังเย่อิงมาเป็นภรรยา เป็นเพราะนางมีความสามารถมากมายหลายด้าน หากขงเบ้งได้แต่งงานกับนางแล้วเขาก็จะได้มีโอกาสเรียนรู้ในศาสตร์ต่างๆเหล่านี้ รวมทั้งเมื่อได้เป็นเขยของสกุลหวังย่อมจะทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เตะตาผู้มีอำนาจคนใดหนึ่งให้รับเขาไปร่วมงาน หากจะใช้เหตุผลนี้ก็พอรับฟังได้ แต่ขงเบ้งจะดูเป็นคนแล้งน้ำใจที่ไม่ได้มอบความจริงใจให้กับนางแต่เพียงเพราะเขาต้องการใช้นางเป็นทางผ่านในการก้าวขึ้นมาเป็นใหญ่เท่านั้น ถ้างั้นทำไมเขาไม่แต่งงานกับคุณหนูรองเสียเลยล่ะครับ เพราะผลของการแต่งงานของเขากับนางย่อมจะสร้างชื่อเสียงของเขาให้โด่งดังได้มากกว่าแต่งงานกับหวังเย่อิงเสียอีก รวมทั้งหากอยากจะเรียนศาสตร์ต่างๆกับหวังเย่อิงก็คงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะตอนนั้นก็เป็นญาติสนิทกันแล้ว
ถ้าผมบอกว่าเป็นเพราะขงเบ้งรักและเข้าใจในตัวนางเพื่อนๆจะเชื่อกันไหมครับ ทำไมผมถึงคิดแบบนั้นน่ะเหรอ ลองมาฟังเหตุผลดูนะครับ อุปนิสัยของขงเบ้งตามที่ปรากฏในเรื่องสามก๊กนั้น เขาเป็นคนที่ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่ เต็มที่ก็จะพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนสนิทอย่าง ชีซี บังทอง เมิ่งกงเวย และซุยโจวผิง ซือกงเหวียน เท่านั้น และส่วนมากเขาก็จะเก็บตัวศึกษาหาความรู้อยู่ที่กระท่อมหลงจงอยู่ตลอด ไม่ค่อยได้ออกไปไหน แต่ถึงกระนั้นความสามารถของเขาก็ยังไปเตะตาสุมาเต็กโชผู้เป็นอาจารย์จนถึงกับตั้งฉายาให้ว่ามังกรนิทรา ส่วนหวังเย่อิงนั้น ด้วยความที่นางมีใบหน้าอัปลักษณ์ ทั้งยังชอบเก็บตัวเพื่อสร้างสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ อาทิเช่น โคกล โดยไม่ออกไปสุงสิงกับใคร จึงทำให้นางถูกมองเป็นคนแปลกประหลาดในสายตาคนอื่น ซึ่งตรงนี้ขงเบ้งก็ไม่ได้แตกต่างกับนางเลย สิ่งนี้คงทำให้คนทั้งคู่เห็นใจและเข้าใจซึ่งกันและกันจนเกิดเป็นความรักก็ได้ เพราะพวกเขาต่างก็ไม่เป็นที่เข้าใจของบุคคลทั่วไป ดังนั้นคนที่จะเข้าใจในความทุกข์ของขงเบ้งก็คือหวังเย่อิง และคนที่เข้าใจในความทุกข์ของหวังเย่อิงก็คือขงเบ้งนั่นเอง หากคนทั้งสองจะรักกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใดเลย และภายหลังจากนี้ขงเบ้งก็ไม่ได้มีหญิงคนอื่นอีก คงมีแต่หวังเย่อิงเพียงผู้เดียวเท่านั้น หากไม่รักนางจริงเขาคงมีเมียน้อยมากมายไปแล้ว เพราะตอนนั้นขงเบ้งอยู่ในฐานะมหาอุปราชผู้ทรงอำนาจสูงสุดในอาณาจักรซู่ฮั่น การจะหาหญิงงามสักคนไม่ใช่เรื่องยากเลย
แต่ก่อนนั้นผมเข้าใจว่าที่ขงเบ้งตัดสินใจแต่งงานกับหวังเย่อิงก็เพียงเพราะต้องการวิชาความรู้ของนาง รวมถึงต้องการความมีชื่อเสียงในฐานะลูกเขยของสกุลหวัง แต่พอทราบว่าหวังเย่อิงนางมีน้องสาวผู้โฉมสะคราญ แถมน้องสาวของนางก็ยังหลงรักในตัวขงเบ้งอีก เรื่องนี้ทำให้ความคิดของผมเปลี่ยนไปคิดว่าขงเบ้งคงจะรักหวังเย่อิงจริงๆ เพราะเรื่องความรักนี้เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนเกินความเข้าใจและไม่มีรูปแบบตายตัว เราไม่อาจไปกะเกณฑ์ความรักของใครคนใดคนหนึ่งได้ ไม่แน่นะครับสำหรับขงเบ้งแล้ว หวังเย่อิงอาจจะเหนือกว่าเอียนซีของโจผี รวมทั้งสองเกี้ยวแห่งแดนใต้ด้วย
แล้วถ้ามีคนค้านว่า หากขงเบ้งรักหวังเย่อิงจริงทำไมถึงมีลูกกับนางช้าเหลือเกินล่ะ เรื่องนี้หาคำตอบได้ไม่ยาก ดูตัวอย่างจากคู่สามีภรรยาในยุคปัจจุบัน บางคู่รักกันมากมายแต่สุดท้ายกลับมีลูกยากเหลือเกิน ทั้งๆที่วิทยาการในสมัยนี้ก้าวหน้าไปมาก แล้วทำไมเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับขงเบ้งและหวังเย่อิงไม่ได้ล่ะครับ จริงไหม
เอาล่ะกลับมาเข้าเรื่องกันต่อนะครับ หลังจากแต่งงานไปแล้ว ชีวิตของหวังเย่อิงกับขงเบ้งก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวามากมาย หากแต่นางกลับมีความสุขและชีวิตชีวามากขึ้น เพราะหลังจากทั้งคู่แต่งงานกันแล้ว หลายต่อหลายคนต่างก็พากันวิจารณ์ไปต่างๆนา ว่า ชายหนุ่มรูปงามอย่างขงเบ้งสิ้นคิดแล้วหรือไรจึงมาแต่งงานกับหญิงอัปลักษณ์หวังเย่อิง และแล้วเรื่องนี้ก็กลายเป็นที่ขบขัน เด็กๆตามท้องถนนก็มักจะเอาเรื่องนี้มาแต่งเพลงล้อเลียนคนทั้งคู่ด้วย ซึ่งวันหนึ่งขงเบ้งกับหวังเย่อิงออกมาข้างนอกก็เจอเด็กๆร้องเพลงนี้เข้าพอดี หวังเย่อิงที่เคยเก็บตัวเงียบงันก็ได้ปั้นหน้าผีหลอกเด็กๆเหล่านั้นจนเผ่นป่าราบ เรื่องนี้เป็นสิ่งยืนยันว่านางดูสดชื่นขึ้นมากจริงๆ
เวลาอยู่ที่กระท่อม ขงเบ้งมักจะเรียนรู้ศาสตร์ต่างๆจากนางเพิ่มเติมอยู่เสมอๆ ว่ากันว่าแผนการใต้หล้าสามส่วนนั้น หวังเย่อิงเป็นคนช่วยขงเบ้งคิดมา รวมทั้งรูปแบบค่ายกลอันลือลั่น ขงเบ้งก็เรียนรู้มาจากนางด้วย และคาดว่าชีวิตแต่งงานของคนทั้งคู่คงมีแต่เพียงกันและกันเท่านั้น หวังเย่อิงที่เคยอับอายความอัปลักษณ์ของตนก็กล้าที่จะแสดงออกมากขึ้น ซึ่งชีวิตแต่งงานที่ไม่หวือหวาแต่มีความสุขของนางก็ได้ดำเนินมายาวนาน จนมาวันหนึ่งก็มีบุรุษผู้หนึ่งที่จะมาพรากขงเบ้งจากนางไป
คนนั้นๆได้ยินกิตติศัพท์ความเก่งกาจของขงเบ้งมาจากชีซีและสุมาเต็กโช เขาจึงเฝ้าพยายามมาพบถึงสามครั้งเพื่อเชิญตัวขงเบ้งไปร่วมงานด้วยให้ได้ สองครั้งแรกเขาไม่ได้พบแต่ก็ไม่ยอมย่อท้อ สู้บากบั่นฝ่าหิมะมาพบกับขงเบ้งอีกในครั้งที่สาม ชายคนนั้นก็คือ เล่าปี่ เสียนเต๋อ
ในการพบกันครั้งที่สามนั้น ขงเบ้งก็ได้ออกมาเสนอแผนการสามส่วนใต้หล้าที่เขาคิดขึ้นให้แก่เล่าปี่ ซึ่งการสนทนาในครั้งนี้เรียกว่า การสนทนา ณ หลงจง ที่เป็นที่เล่าขานกันมายาวนาน และเมื่อขงเบ้งเอ่ยแผนการของเขาออกมาแล้ว เล่าปี่ก็ได้เชิญตัวขงเบ้งไปร่วมงานด้วย ซึ่งเขาก็ตอบตกลงในที่สุด
หลายต่อหลายคนคงสงสัยกันว่าทำไมขงเบ้งจึงตอบตกลงได้ง่ายนัก เรื่องเหตุผลนี้ผมเคยว่าไว้ในตอนของขงเบ้งแล้วนะครับ ใครที่เคยสงสัยก็ลองกลับไปอ่านดูได้ครับ ในที่นี้ผมขอเสนออีกแง่มุมหนึ่งที่ไม่เคยได้ว่าออกไปนั่นก็คือ เดิมทีแล้วขงเบ้งเป็นชาวชีจิ๋วครับ ยังจำกันได้ไหมเอ่ย เมื่อ ปี ค.ศ.194 โจโฉยกทัพสามหมื่นมาฆ่าฟันประชาชนชาวชีจิ๋วจนล้มตายราวใบไม้ร่วง แล้วคนที่นำทัพจำนวนน้อยนิดของตนเข้ามาหยุดยั้งการฆ่าฟันในครั้งนี้ก็คือเล่าปี่นั่นเอง ซึ่งตรงจุดนี้คงจะทำให้ขงเบ้งประทับใจในตัวเล่าปี่จนยอมทำงานให้อย่างถวายหัวก็เป็นได้
จากนั้นขงเบ้งก็ได้ติดตามไปรับใช้เป็นกุนซือคู่ใจของเล่าปี่ไปนับแต่นั้น ซึ่งต่อไปนี้ชีวิตของขงเบ้งที่เคยมีแต่หวังเย่อิงต้องเปลี่ยนไป เป็นชีวิตที่มีแต่เล่าปี่ผู้เป็นนายเหนือหัวแทน ซึ่งเรื่องนี้คงจะสร้างความปวดร้าวใจให้แก่หวังเย่อิงอย่างมากทีเดียว
หลังจากติดตามไปรับใช้เล่าปี่แล้ว ขงเบ้งก็ได้แสดงความสามารถหลายอย่างให้เป็นที่ประจักษ์ จนเขากลายเป็นบุคคลที่เล่าปี่ขาดไม่ได้ ซึ่งผลงานการศึกในครั้งแรกก็คือ การตีทัพแฮหัวตุ้นที่ทุ่งพกบ๋องจนแตกยับเยิน แต่แล้วชัยชนะในครั้งนี้ กลับนำมาหายนะอันใหญ่หลวงมา เพราะหลังการพ่ายแพ้ของแฮหัวตุ้น โจโฉก็ได้ยกทัพใหญ่นับสิบหมื่นมาด้วยตนเอง เล่าจ๋องผู้ขึ้นเป็นจ้าวมณฑลเกงจิ๋วต่อจากเล่าเปียวได้ยอมจำนน เล่าปี่ต้องหนีตายไปตั้งหลักที่เซี่ยโข่วของซุนกวน หวังเย่อิงกับจูกัดจวิ๋นเองก็ต้องทิ้งบ้านขนของหนีภัยไปด้วย ต่อมาด้วยความสามารถในการเจรจาของขงเบ้ง ซุนกวนได้ยอมเข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมสู้ศึกโจโฉกับเล่าปี่ ทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากันที่ยุทธภูมิเซ็กเพ็ก ซึ่งลงท้ายแล้วโจโฉต้องพ่ายแพ้กลับไป
หลังจากเสร็จศึกนี้แล้ว หวังเย่อิงก็ได้มาอยู่กับขงเบ้งอีกครั้ง และช่วงนี้เองที่ขงเบ้งได้แสดงผลงานสำคัญหลายต่อหลายอย่างออกมา อาทิ เช่น เดินทางไปเจรจาขอยืมเมืองเจียงหลิงกับซุนกวนได้เป็นผลสำเร็จ และออกอุบายให้เล่าปี่ส่งกำลังทหารเข้ายึดสี่หัวเมืองทางใต้ของเกงจิ๋ว จนสามารถสร้างเขตอิทธิพลของตนขึ้นมาได้สำเร็จ ซึ่งเล่าปี่ก็ได้ตั้งให้ขงเบ้งเป็นผู้ว่าราชการทั้งสี่หัวเมืองนั้น แต่ยิ่งขงเบ้งเปล่งประกายมากขึ้นเท่าไหร่ ความห่างเหินระหว่างเขากับหวังเย่อิงก็มีมากขึ้นเท่านั้น
เท่าที่ดูจากการแสดงออกของหวังเย่อิง แน่นอนครับว่าลึกๆแล้วนางก็คงเจ็บปวด เพราะต่อไปนี้นางไม่ใช่อันดับหนึ่งในใจของสามีอีกแล้ว หากคนๆนั้นกลับเป็นเล่าปี่แทน แต่นางกลับไม่เคยแสดงอาการโกรธเคืองทั้งยังให้ความเข้าใจและสนับสนุนขงเบ้งต่อไป นี่แสดงว่านางเป็นผู้หญิงที่มีความเข้าใจในโลกและเป็นคนมีเหตุผลอย่างมาก
ต่อมาเล่าปี่นำทัพเข้าตีมณฑลเอ๊กจิ๋วหรือเสฉวนทางตะวันตก เขาทิ้งให้ให้ขงเบ้ง กวนอู เตียวหุย จูล่ง คอยรักษาการณ์ที่เกงจิ๋วแทน ซึ่งช่วงนี้เองที่หวังเย่อิงได้ใกล้ชิดกับสามีอีกครั้ง แต่ก็เป็นเวลาไม่นาน เพราะหลังจากนั้นเล่าปี่มีคำสั่งให้ขงเบ้งนำนำกำลังไปช่วยเสริมการโจมตีเสฉวน ขงเบ้งจึงจัดทัพไปในทันที โดยปล่อยให้กวนอูเป็นผู้ดูแลเกงจิ๋วเพียงคนเดียว และสามารถช่วยให้เล่าปี่ยึดครองเสฉวนได้สำเร็จ มาถึงตรงนี้แผนการใต้หล้าสามส่วนได้เป็นจริงขึ้นมาแล้ว
หลังจากนั้นขงเบ้งก็ได้พำนักที่เฉิงตู เมืองหลวงของเสฉวนกับเล่าปี่เรื่อยมา คาดว่าหวังเย่อิงคงจะติดตามมาด้วยหลังจากนั้นไม่นาน ต่อมาขงเบ้งช่วยเล่าปี่ในการวางแผนเอาชนะโจโฉในศึกชิงเมืองฮั่นจงได้สำเร็จ เล่าปี่ได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮั่นจงอ๋อง และแต่งตั้งขงเบ้งเป็นที่มหาเสนาบดี มีตำแหน่งเป็นรองเขาเพียงคนเดียว
อีกสองปีต่อมา เล่าปี่สถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ พระนามเจียงหวู่ตี้ ตั้งราชวงศ์จ๊กฮั่นหรือซู่ฮั่นขึ้น ขงเบ้งได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่มหาอุปราช เมื่อมาถึงตรงจุดนี้ ถือได้ว่าขงเบ้งได้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิตรับราชการ และพูดได้เต็มปากว่าในเวลานี้นอกจากเล่าปี่แล้ว ขงเบ้งคือผู้กุมอำนาจสูงสุดในแว่นแคว้น แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีหวังเย่อิงเป็นภรรยาเพียงคนเดียว ไม่ได้มีเมียน้อยเหมือนขุนนางผู้ทรงอำนาจคนอื่นๆ และหากจะบอกว่าหวังเย่อิงนางมีความสำคัญกับเขามากก็คงไม่ผิด ไม่เช่นนั้นด้วยตำแหน่งอันสูงส่งและมีอำนาจล้นฟ้า ขงเบ้งคงมีเมียน้อยและลูกหลานเต็มบ้านไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานพระเจ้าเล่าปี่หรือเจียงหวู่ฮ่องเต้ก็สวรรคต ก่อนที่จะสิ้นพระองค์ได้ฝากฝังเล่าเสี้ยนอันเป็นรัชทายาทให้ขงเบ้งคอยดูแล ซึ่งหลังจากการสวรรคตของพระเจ้าเล่าปี่แล้ว พระเจ้าเล่าเสี้ยน ได้ก้าวขึ้นมาเป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป แต่ด้วยความที่ยังเยาว์นัก ขงเบ้งจึงต้องเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตอนนี้นับได้ว่าเขานี่แหละเป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดในแคว้น
ในเวลาต่อมาขงเบ้งได้ยกทัพขึ้นเหนือเพื่อรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่ง ซึ่งในการยกทัพไปนั้น เขาได้ประดิษฐ์อาวุธร้ายแรงรูปแบบใหม่ขึ้นมาด้วย ซึ่งก็คือ รถยิงธนู ที่ยิงลูกธนูได้คราวละกว่าสิบดอก รถอุปกรณ์สื่อสาร อย่างรถตะเกียงขงเบ้ง ที่ใช้ยิงโคมขึ้นฟ้าเพื่อส่งสัญญาณ โคไม้ รถอุปกรณ์ขนส่งเสบียง ว่ากันว่าทั้งหมดนี้ขงเบ้งเรียนรู้มาจากหวังเย่อิงนี่เอง
ต่อมาใน ปี ค.ศ.229 หวังเย่อิงก็ได้ให้กำเนิดลูกชายแก่ขงเบ้ง ทั้งที่ทั้งคู่ต่างเฝ้ารอวันนี้มายาวนาน แต่ทว่าสิ่งที่ขงเบ้งทำให้นางและลูกได้นั้นมีเพียงแค่ตั้งชื่อลูกชายคนนี้ว่า จูกัดเจี้ยน หรือจูกัดเจี๋ยม เพราะหลังจากนี้ชีวิตของเขาจะไม่ได้อุทิศให้กับครอบครัวอีกแล้ว บ้านของเขาคืออาณาจักรซู่ฮั่นและลูกชายของเขาไม่ใช่จูกัดเจี้ยนแต่เป็นพระเจ้าเล่าเสี้ยน นายเหนือหัวองค์ปัจจุบัน ซึ่งเรื่องนี้เหมือนจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างหวังเย่อิงและขงเบ้งต้องถึงจุดจบ
ปี ค.ศ.234 ขงเบ้งยกทัพใหญ่สามสิบหมื่นเข้าตีแคว้นเว่ยอีกครั้ง คราวนี้เว่ยหมิงตี้โจยอยได้ส่งสุมาอี้คู่ปรับคนสำคัญของเขาออกมารับมือ ขงเบ้งตั้งหลักเตรียมสู้รบยืดเยื้อ แต่ดูเหมือนสวรรค์จะไม่เข้าข้าง เพราะหลังจากนั้นขงเบ้งต้องป่วยหนัก ไม่สามารถลุกขึ้นมาบัญชาการทัพได้อีก สองสิ่งที่เขาต้องทำก็คือ หนึ่งส่งจดหมายไปยังเฉิงตูสองฉบับ ฉบับแรกถวายพระเจ้าเล่าเสี้ยน อีกหนึ่งฉบับก็คือส่งให้กับหวังเย่อิง ผู้เป็นภรรยา อย่างที่สองก็คือหาทางให้กองทัพที่ปราศจากตัวเขาบัญชาการศึกถอยทัพกลับได้อย่างปลอดภัย
เมื่อหวังเย่อิงได้รับจดหมายแล้ว นางไม่รอช้า รีบเดินทางมาพบขงเบ้งที่ทุ่งอู่จ้างในทันที ซึ่งบรรยากาศการพบกันในครั้งนี้ของคนทั้งสองนั้นจะเป็นอย่างไร เศร้าใจ น้อยใจ หรือตื้นตันกันแน่นะ ทั้งหมดนี้ผมไม่อาจรู้ได้ แต่หลังจากการพูดคุยสั่งเสียกับภรรยาแล้ว ขงเบ้งก็สิ้นใจ ซึ่งว่ากันว่าคนที่ขงเบ้งฝากฝังให้ช่วยนำทัพซู่ฮั่นถอยกลับนั้นคือนาง
ทำไมถึงเป็นแบบนั้นละครับ ในตำนานและเกร็ดต่างๆเล่าว่าขงเบ้งใช้ศพตัวเองหรือหุ่นไม้รูปเหมือนมาหลอกสุมาอี้ให้หวาดระแวง หากเป็นเช่นนั้นจริง ทำไมสุมาอี้ถึงเชื่อได้สนิทใจขนาดนั้น แล้วทำไมกองทัพซู่ฮั่นถึงเคลื่อนไหวอย่างเป็นระเบียบทั้งๆที่ขาดผู้บัญชาการ เคยสงสัยกันไหม
บางตำนานเล่าว่า คนที่ปลอมตัวเป็นขงเบ้งคอยบัญชาการทัพในครั้งนี้ก็คือหวังเย่อิงนี่แหละ ถ้าหากเป็นจริงก็แสดงว่าขงเบ้งให้การยอมรับในสติปัญญาของนางว่าเหนือล้ำจริงๆ ซึ่งรูปแบบแถวค่ายกล รวมทั้งรูปแบบการจัดทัพของซู่ฮั่นนั้น ขงเบ้งกับนางคงจะช่วยกันคิดขึ้นมา และเขาคงจะวางใจว่า หากแผนการถอยทัพที่เขาวางไว้มีหวังเย่อิงเป็นคนดำเนินการให้ กองทัพจ๊กจะถอยกลับอย่างปลอดภัย นี่บ่งบอกว่านอกจากขงเบ้งแล้วมีเพียงนางเท่านั้นที่พอจะสู้รบปรบมือกับสุมาอี้ได้อย่างสูสี
เอาล่ะ กลับมาเข้าเรื่องกันต่อนะครับ หลังจากขงเบ้งตาย ทัพซู่ฮั่นก็ต้องถอยกลับในทันที ซึ่งก็เป็นไปตามคาด สุมาอี้ที่รอโอกาสนี้อยู่รีบนำทัพเข้าตามตีตลบหลังทัพซู่ฮั่นที่กำลังถอย แต่ทว่าเขากลับต้องตกใจเมื่อพบขงเบ้งที่น่าจะตายไปแล้วคอยบัญชาการทัพอยู่ ซึ่งขงเบ้งที่สุมาอี้เห็นนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นหวังเย่อิงนี่แหละ ทั้งทหารเสฉวนก็เคลื่อนไหวเป็นระเบียบ ไม่มีอาการเสียขวัญใดๆ ทำให้เขาคิดว่านี่คงเป็นกลลวงของขงเบ้งแน่ๆ จึงรีบนำทัพถอยกลับไป ส่งผลให้ทัพซู่ฮั่นถอยกลับเสฉวนอย่างปลอดภัย นี่จึงนับเป็นผลงานสำคัญของหวังเย่อิงเลยทีเดียว
ซึ่งพอถึงเฉิงตูเมืองหลวงของเสฉวนแล้ว พระเจ้าเล่าเสี้ยน ตลอดจนประชาชนทั่วไป ต่างพากันร้องให้เสียใจต่อการจากไปของมหาอุปราชผู้เก่งกาจของพวกเขา แต่มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่ไม่ได้หลั่งน้ำตาเลย นางคือหวังเย่อิง เพราะนางเข้าใจว่านี่เป็นเส้นทางชีวิตที่สามีนางเป็นคนเลือก
หลังการตายของขงเบ้ง พระเจ้าเล่าเสี้ยนได้พระราชทานที่ดินทำกินให้กับหวังเย่อิงและลูกของนางไว้อยู่อาศัย และบทบาทของนางในสามก๊กก็เหมือนจะสิ้นสุดลงที่ตรงนี้ หลังจากนี้ไม่มีระบุว่านางตายตอนไหน และด้วยสาเหตุอะไร นางหายไปเฉยๆ เหมือนไม่เคยมีตัวตนมาก่อน ทั้งๆที่นางเป็นถึงฮูหยินคนเดียวของมหาอุปราชคนแรกแห่งซู่ฮั่น ทำไมถึงไม่ได้มีรายละเอียดลงไว้เลย เพราะนางเป็นหญิงที่หน้าตาอัปลักษณ์งั้นหรือ ก็คงใช่ เพราะธรรมดาแล้วคนทั่วไปก็ตัดสินผู้อื่นจากรูปร่างหน้าตาภายนอกอยู่แล้ว ขนาดนางสองเกี้ยวที่ไม่ได้ระบุว่ามีความสามารถอันใดนั้นก็ยังได้รับการยกย่องเชิดชูและกล่าวถึงมากกว่าหวังเย่อิงผู้มีความสามารถและสติปัญญาอันเหนือล้ำเสียอีก ทั้งนี้ก็เพราะพวกนางมีหน้าตาที่งดงามมากกว่าก็เท่านั้น
หากจะค้นหาชีวิตหลังจากเป็นหม้ายของหวังเย่อิงนั้นต้องดูจากการแสดงออกของจูกัดเจี้ยน ผู้เป็นลูกชายของนาง นางเฝ้าอบรมเลี้ยงดูลูกชายของนางเป็นอย่างดี ทั้งยังปลูกฝังให้มีความภักดีต่อชาติด้วย ซึ่งตรงจุดนี้หลายคนคงสงสัยว่าขงเบ้งไม่ได้มีส่วนช่วยเลยหรือ ผมขอบอกว่า ขงเบ้งต้องยกทัพทำศึกอยู่เสมอๆ ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว ทั้งตัวเขาเองก็ให้ความสำคัญต่อพระเจ้าเล่าเสี้ยนมากกว่าหวังเย่อิงและลูกด้วย ดังนั้นจึงมีแต่นางเพียงผู้เดียวที่คอยอบรบเลี้ยงดูลูกชายให้เติบใหญ่เป็นบุรุษที่ห้าวหาญ
ซึ่งจูกัดเจี้ยนก็ไม่ได้ทำให้นางต้องผิดหวัง เขาฉายแววของความเป็นคนมีความสามารถ ทั้งในด้านอักษรศาสตร์และความเป็นจิตรกร รวมถึงความจงรักภักดีต่อประเทศชาติด้วย ภายหลังเขาได้เป็นราชบุตรเขยในพระเจ้าเล่าเสี้ยน ทั้งยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายพลในขณะที่อายุยังน้อย
ต่อมาด้วยการทำศึกอย่างบ้าระห่ำของเกียงอุย ทำให้บ้านเมืองอ่อนแอลงมาก สุมาเจียวผู้สำเร็จราชการของแคว้นเว่ยจึงส่งแม่ทัพจงโฮยกับเตงงายนำกำลังทหารเข้ามายึดตีเสฉวน เกียงอุยนำทัพไปต้านศึกจงโฮยที่ด่านเกียมก๊กไว้ได้ ทำให้เตงงายต้องลัดเลาะเข้าตีเสฉวนจากทางหวู่ตูและยิมผิงแทน ซึ่งตลอดทางที่ทัพของเตงงายยกผ่านมานั้นแม่ทัพผู้ประจำการต่างจุดต่างๆของเสฉวนต่างยอมศิโรราบให้เขากันหมด พระเจ้าเล่าเสี้ยนจึงส่งจูกัดเจี้ยนออกไปรับศึก ซึ่งจูกัดเจี้ยนก็รับคำ เขานำทัพไปพร้อมกับจูกัดสงลูกชายคนโต โดยมีหน้าที่ในการรักษาด่านกิมก๊กไว้ให้มั่น
พอเตงงายทราบว่าผู้ที่รักษาด่านกิมก๊กเป็นจูกัดเจี้ยนแล้ว ก็ได้ส่งจดหมายให้เขายอมจำนน เตงงายจะไม่ทำอะไร เมื่อจูกัดเจี้ยนได้อ่านจดหมายแล้วก็โกรธจัด ฉีกจดหมายทิ้งลงพื้น ยืนยันว่าจะป้องกันประเทศจนตัวตาย และเขาก็ต้านทานการบุกของเตงงายไว้อย่างเต็มที่ แต่ทว่าด้วยความที่ยังอ่อนประสบการณ์เขาถูกลวงให้ไปตกอยู่ในวงล้อมของข้าศึก เตงงายฉวยโอกาสใช้ธนูยิงขาม้าของจูกัดเจี้ยนจนล้มลง และทหารเว่ยกรูเข้าไปจะจับเป็นเขา จูกัดเจี้ยนเพื่อรักษาเกียรติของตน จึงชักกระบี่เชือดคอตาย เขาตายอย่างลูกผู้ชายชาตินักรบ ไม่มีสิ่งใดให้ต้องตำหนิติเตียน
ซึ่งความภักดีต่อชาติของจูกัดเจี้ยนนั้น ต้องยกความดีให้กับหวังเย่อิงผู้เป็นมารดา หากไม่ได้นางแล้วลูกชายของนางอาจจะมาได้ไม่ไกลขนาดนี้ ความสามารถหลายๆอย่างที่ลูกชายของนางแสดงออกมานั้นต้องยกความดีให้กับนางอีกเช่นกัน แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่บทบาทในเรื่องสามก๊กของนางช่างน้อยนัก ทั้งที่เมื่อเทียบกับยอดหญิงแห่งยุคอย่าง เอียนซี และนางสองเกี้ยวแล้ว นางไม่ได้ด้อยกว่าเลย แต่เพียงเพราะหน้าตาของนางจึงไม่ได้รับการจดจำเท่าที่ควร ก็เพราะเรื่องนี้แหละที่ทำให้นางถูกลืม
แต่ถึงจะอย่างไร นางก็แสดงให้หลายต่อหลายคนประจักษ์แล้วว่า ความสามารถที่นางมีอยู่นั้น เหนือล้ำกว่าคนธรรมดา หากให้ขงเบ้งเป็นมังกรนิทราแล้ว หวังเย่อิงก็ถือเป็นหงสาที่บินเคียงคู่มังกรไม่ห่างกาย จึงสมควรจัดให้นางเป็นยอดหญิงอีกคนในยุคสามก๊กครับ
จบแล้วครับ
.
Tweet
บันทึกการเข้า
Blue Monkey
จำนวนผู้ประกอบการ:
(
0
)
Bronze Saint
291
ออฟไลน์
ใช้งานล่าสุด:
24, กันยายน 2017, 10:46:06 AM
กระทู้: 239
หมายเลขสมาชิก: 7372
วันที่สมัครสมาชิก: ก.พ., 2010
กระทู้: 239
45.00
ซูล่า
ดูรายการสินค้า
โอน Zula ให้ Blue Monkey
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Cosmo 12 : Exp 50%
HP: 0.1%
OS:
Windows 7/Server 2008 R2
Browser:
Firefox 17.0
ดูรายการสินค้า
|
|
Re: ชมรมคนชอบอ่านสามก๊กและตำนานซามูไร อัพเดทเตียวเลี้ยว หน้า 22 ครับ
«
ตอบ #335 เมื่อ:
18, ธันวาคม 2012, 01:13:26 PM »
แฟนสามก๊กเข้ามารายงานตัวอีกคนครับ
เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีมากเลยครับ เพิ่มbookmarkไว้แล้นน
Right to be God
Tweet
บันทึกการเข้า
ฝากการ์ตูนcloth mythด้วยคร้าบ
http://www.saintseiyathaifanclub.com/smf_n/index.php?topic=21156.msg413609;topicseen#msg413609
หน้า:
1
...
21
22
[
23
]
ขึ้นบน
พิมพ์
STF Forum
>
Administration Forum
>
Club STF
> หัวข้อ:
ชมรมคนชอบอ่านสามก๊กและตำนานซามูไร อัพเดทเตียวเลี้ยว หน้า 22 ครับ
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
Administration Forum
-----------------------------
=> Notes and News STF
=> Presentation Members
=> Meetings Members
===> Toilet Room
=> Club STF
===> แล็ปดาวหาง
===> STF Sports and Football Club
===> Y-Saint Society
=====> How to
=====> Fan Fic & Fan Art
===> Healthy Club [คลับอโรคยา]
===> Club Unseen Thailand And World Travel
-----------------------------
News & Figures Section
-----------------------------
=> News & Releases
=> Reactions & Rumours
===> Archives Forum - สุสานเหล่าเซนต์
=> Questions / Comments and other goodies Saint Seiya
===> Tutorials & Comparative
=> Saint Cloth Series 1986 - 2006
=> Customs/garage kits/resines
=> Your Collections
-----------------------------
Saint Seiya World Section
-----------------------------
=> Anime & Manga Saint Seiya
===> Library Of Saint
===> STF Member Poll & Statistic
=> Fan-fics, Fan-arts
-----------------------------
Advertisements
-----------------------------
=> Sales / Exchanges Market
-----------------------------
Other Toys Section
-----------------------------
=> Toys News
กำลังโหลด...